ปรับโฉมใหม่ (2023)
ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ได้ทำการเปิดตัว ฮอนด้า ซิตี้ โฉมไมเนอร์เชนจ์ ที่มาพร้อมความสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยดีไซน์ใหม่รอบคัน กับขุมพลังที่มีให้เลือก 2 รูปแบบทั้งฟูลไฮบริด e:HEV และขุมพลัง VTEC TURBO 1.0 ลิตร รวมทั้งยังได้รับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่ติดตั้งในทุกรุ่นย่อย เคาะราคาจำหน่ายระหว่าง 629,000 – 839,000 บาท

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงในรุ่น City HATCHBACK TURBO Minorchange

เปลี่ยน กันชนหน้า, กันชนหลัง, กระจังหน้า, ล้ออัลลอย ดีไซน์ใหม่ ขนาด 15 นิ้ว และ 16 นิ้ว, ยาง จาก 185/55 R16 เป็น 185/60 R16
เพิ่ม ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ
เปลี่ยน วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร สีแดงเมทัลลิก, เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ดีไซน์ใหม่, มาตรวัดเรืองแสง Optitron ตกแต่งด้วยโครเมียม
เพิ่ม หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนมาตรวัดแบบสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
เปลี่ยน หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ และเพิ่ม การรองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย Wireless
เพิ่ม ระบบ Honda SENSING ” ทุกรุ่นย่อย ”
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High-Beam ระบบเตือน และ ช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ RDM with LDM ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ LKAS ระบบเตือนการชนรถ และ คนเดินถนน พร้อมระบบช่วยเบรก CMBS ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมปรับความเร็วตามคันหน้า Adaptive Cruise Control ACC

เพิ่ม ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ Lead Car Departure (LCDN), ระบบล็อครถอัตโนมัติเมื่อห่างจากตัวรถ Walk Away Auto Lock, ระบบสตาร์ทรถด้วยกุญแจรีโมท Remote Engine Start และ ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง Rear Seat Reminder
ปรับราคารุ่น 1.0 Turbo SV เพิ่มขึ้น 4,000 บาท (จากเดิม 675,000 บาท)

จากนั้น วันที่ 22 มีนาคม 2567 1.0 Turbo S CVT ราคา 599,000 บาท กลับมาจำหน่ายอีกครั้ง

ปรับดีไซน์ภายนอกใหม่
เปลี่ยนขนาดยางเป็น 185/60 R15
เปลี่ยนหน้าจอ Multi-information Display รุ่น 1.0 Turbo เป็นแบบสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
เพิ่มระบบเปิด – ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
เพิ่มไฟเตือนให้ตรวจสอบเบาะนั่งด้านหลัง Rear Seat Reminder
เพิ่มระบบความปลอดภัย Honda Sensing